ดร.ทักษิณ มีจิตวิญญาณของความเป็นผู้ประกอบการมาตั้งแต่ยังเด็ก ด้วยเพราะได้รับการปลูกฝังมาจากครอบครัว โดยเฉพาะพ่อเลิศ ที่มักจะพาเขาติดสอยห้อยตามไปด้วยทุกครั้งที่ออกไปทำงานนอกบ้าน ทุกงานที่พ่อเลิศทำ ดร.ทักษิณ เก็บเล็กผสมน้อยแนวคิดการทำธุรกิจอยู่ทุกขณะก้าวที่ทั้งสองคนเดินไปพร้อมกัน ตั้งแต่เปิดร้านกาแฟที่หน้าบ้าน ไปจนถึงการร่วมเป็นลูกจ้างในโรงหนังของพ่อเลิศเอง เขาก็มักจะเก็บเกี่ยวประสบการณ์ทั้งล้มและลุกของธุรกิจทำร่วมกันเสมอ
ในหนังสือ “ตาดูดาว เท้าติดดิน” เขากล่าวไว้ว่า มรดกจากพ่อเป็นแรงท้าทายให้เขาสร้างมรดกให้กับคนรุ่นหลัง ซึ่งเป็นมรดกทางความคิด มรดกทางจิตใจ เพราะพ่อของเขาได้ก่อร่างสร้างความกล้าคิด กล้าลอง ให้กับเขา เขาจึงอยากจะบ่มเพาะแนวคิดต่างๆ ที่จะทุ่มเททำเพื่อคนรุ่นหลัง ไม่ว่าจะด้วยทางใดก็ทางหนึ่ง
ดร.ทักษิณ มีลักษณะการลงทุนที่มีความพิเศษอย่างหนึ่งในตัวคน ๆ เดียวคือ เป็นคนที่กล้าลงทุนเมื่อมีโอกาสเหมาะ และขณะเดียวกันก็มีความระมัดระวังในการลงทุนบางอย่าง
ในปัจจุบัน คนรุ่นใหม่มักที่จะมองหาโอกาสใหม่ ๆ ในการสร้างรายได้อยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการทำธุรกิจ ไปจนถึงการลงทุน ตลอดชีวิตการทำธุรกิจของเขามากกว่า 30 ปี เขาได้ให้แง่คิดในการทำธุรกิจรวมถึงการลงทุนในรูปแบบต่างๆ ไว้ ผ่านคลิปสั้นเมื่อปี 2559 และยังปรับใช้ได้อยู่จนถึงทุกวันนี้
“ ใครที่คิดจะทำมาหากินอะไร ต้องพยายามมองว่า Factor รอบตัวเรามีเยอะ บางตัวเกี่ยวกับเราใกล้ ๆ บางตัวมันไกล แต่ไกลแล้วมันก็มีผลกับเราในชีวิต เพราะฉะนั้นทำอะไรก็มองกว้าง ๆ มองหลายๆ มิติ”
ดร.ทักษิณ มองว่า ในช่วงนี้มีธุรกิจใหม่ ที่เกิดจากการใช้ Business Model รวมทั้งเทคโนโลยีใหม่เข้ามาผสมผสานกัน จนเข้ามาทำลายธุรกิจเก่าที่ไม่ยอมปรับตัวและเปลี่ยนแปลงได้ โดยเขาได้ยกตัวอย่างโนเกีย โมโตโรลา โพราลอยด์ และโกดัก ที่ปิดกิจการเพราะปรับตัวไม่ทันกับกระแสของการเปลี่ยนแปลง
เขาได้ฝากไปถึงคนรุ่นใหม่ที่ประสบความสำเร็จ อย่าหลงระเริงกับการใช้เงิน เช่น เมื่อเล่นหุ้นได้ อย่าเพิ่งใช้เงิน หากจะซื้อทรัพย์สินไว้ยังสามารถนำทรัพย์สินนั้นมาแปลงเป็นเงินทุนไว้รองรับเมื่อหุ้นตกได้ แต่หากใช้จ่ายฟุ่มเฟือย เมื่อหุ้นตกอาจจะเดือดร้อน ดังนั้นเมื่อมีเงินทุน ขอให้ใช้พอสมควรและควรกันเงินเผื่อไว้ ไม่ควรลงทุนทั้งหมด
“Don’t put all the eggs in one basket อย่าเอาไข่ทั้งหมดที่เรามี ไปไว้ในตระกร้าใบเดียว อะไรหล่นใส่ก็แตกหมด ไม่เหลือเลย เพราะฉะนั้น กระจายการลงทุน กระจายการเก็บเงินไว้ เป็นวิธีการลงทุนที่ผมอยากฝากไว้ครับ”
การทำธุรกิจในปัจจุบันต้องพบกับการแข่งขันรอบด้าน การแข่งขันที่เกิดขึ้นมาจากการแข่งขันกับตัวเองที่จะต้องทำให้ดีขึ้นทุกวัน รวมทั้งการแข่งขันจากคู่แข่งที่อยู่ในเวทีเดียวกัน หรือแข่งขันเวทีอื่น ซึ่งการแข่งขันที่จะได้เปรียบมากขึ้น คือการแข่งขันที่คู่แข่งนำเทคโนโลยีเข้ามาปรับเปลี่ยนธุรกิจด้วย จึงจะได้ชื่อเป็นการแข่งขันในโลกยุคใหม่
“ธุรกิจคือสิ่งที่มีชีวิต และสิ่งมีชีวิตทั้งหลายต้องปรับตัวไปตามสภาพแวดล้อม เหมือนกับสัตว์ป่าเดินดี ๆ ไม่สนใจอะไร พอเจอสัตว์ป่าที่ตัวใหญ่กว่ากินไป เพราะฉะนั้นต้องระมัดระวังทุกอย่าง ทุกฝีก้าวในการเดิน”
ในด้านของการลงทุนที่กล้าเสี่ยงของเขา ใช้กับเฉพาะในบางสถานการณ์ที่ “ต้องเสี่ยง” เสมอ แต่ทั้งหมดทั้งมวล การลงทุนทุกรูปแบบจะต้องทำให้สัดส่วนหนี้ต่อทุนต่ำ ไม่มากไม่น้อยไปกว่ากัน หรืออยู่ที่ 1 : 1
“เราจะทุ่มเงินลงทุนไปมากจนอัตราส่วนหนี้ของเราสูงกว่าทุนมากไม่ได้ ไม่อย่างนั้นจะเหนื่อย”
เขามีปรัชญาว่า ขอให้ความเสี่ยงในการทำธุรกิจนั้น จำกัดไว้เฉพาะตัวธรรมชาติของธุรกิจเองเท่านั้น อย่านำความเสี่ยงอื่นเข้ามาเพิ่มอีก
โดยเฉพาะในธุรกิจขนาดเล็ก หรือ Family Business ไม่ควรรวมเงินบริษัทกับเงินส่วนตัวเป็นกระเป๋าเดียวกัน เช่น การไปเที่ยวต่างประเทศ ฯลฯ ที่ใช้เงินบริษัท เมื่อปิดงบแล้วทำให้เงินทุนมีปัญหา เมื่อบริษัทขยายจนเติบโต นำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ได้ แต่ยังใช้ระบบการเงินแบบเดิม จนทำให้ฐานะการเงินของบริษัทอ่อนแอ ซึ่งการใช้เงินผิดประเภทนี้อาจจะส่งผลระยะยาวไปถึงการที่นักลงทุนต่างชาติไม่อยากเข้ามาลงทุนในไทยได้
“บริษัทก็เหมือนเครื่องพิมพ์เงิน ต้องหมั่นรักษาให้อยู่ในสภาพดีเสมอ พิมพ์ได้น้อยก็ใช้น้อย พิมพ์ได้มากก็ใช้มาก ไม่ใช่พิมพ์น้อยใช้มากเกินตัว หรือไปเร่งมากๆ ก็เกินกำลังการผลิต พอเครื่องพิมพ์เสีย ไม่มีทางเลือก ก็เอาเครื่องไปขาย สุดท้ายจะเอาเงินที่ไหนมาใช้”
เขามองว่าความเข้มแข็งของแท่นพิมพ์เปรียบเสมือนความเข้มแข็งของบริษัท หากบริษัทหรือแท่นพิมพ์เข้มแข็ง ผู้ถือหุ้นย่อมได้เงินปันผลเพิ่มพูนขึ้น เขาถือหลักของความเป็นธรรมต่อผู้ถือหุ้นเป็นเรื่องใหญ่ ดังนั้นย่อมเป็นหน้าที่ของเขาที่จะต้องดูแลแท่นพิมพ์ให้คงทนและมีประสิทธิภาพ
ความคิดของ ดร.ทักษิณ เป็นความคิดที่มีก้าวย่างมุ่งไปสู่ข้างหน้าตลอดเวลา ไม่ติดกับดัก ไม่เข้าใกล้กับความผิดพลาด แต่เมื่อพลั้งไปแล้ว เขามักจะนำประสบการณ์ที่มีค่าเหล่านั้นแบ่งปันไปยังทุกคนที่รักเสมอ
การลงทุนคือความเสี่ยง ความผิดพลาดคือประสบการณ์ ความสำเร็จคือกำไรชีวิต ทุกอย่างคือเบ้าหลอมชีวิตของคนเราให้แข็งแกร่ง ดังที่ ดร.ทักษิณ เป็นทุกวันนี้