ดร.ทักษิณมีหลายบทบาทหน้าที่ทั้งการทำงานด้านธุรกิจและการบริหารประเทศ แต่ถ้าต้องการมองดร.ทักษิณจากมุมมองที่ใกล้ชิดมากขึ้นก็คงจะต้องถามจากลูก ๆ ที่จะมองเห็นมุมที่ละเอียดอ่อนมากขึ้น
“สำหรับอิ๊งค์ ไม่มีวันไหนที่ไม่ภูมิใจในตัวพ่อเลยค่ะ เลือกได้อีกกี่ชาติ ก็อยากเป็นลูกพ่อคนนี้ ในแต่ละวันดูเหมือนพ่อจะมีแต่คำว่า “ทำงาน ๆ” แต่ในมุมของครอบครัวคุณพ่อก็ทำหน้าที่ของคุณพ่อได้ครบถ้วน แม้กระทั่งเวลาที่ไม่ได้อยู่ใกล้กัน มีคนเคยถามว่า รู้สึกยังไงที่มีคุณพ่อเป็นนายกในใจของหลายคน อาจต้องเสียสละโอกาสส่วนตัวหลายอย่าง อิ๊งค์มองว่ามันไม่ใช่ความเสียสละแต่เป็นความตั้งใจของคุณพ่อที่จะพัฒนาประเทศและตั้งใจช่วยคนจริง ๆ ซึ่งมันกลับเป็นความภาคภูมิใจของลูก ๆ ซะด้วยซ้ำ
ส่วนสิ่งที่เจออยู่ในตอนนี้ ก็แค่ต้องปรับตัว ปรับใจ ปรับความคิด ซึ่งส่วนมากทำได้ไม่มีปัญหา จะเหลือก็เพียงแค่ความคิดถึงที่บางทีก็จัดการความรู้สึกตัวเองไม่ได้บ้าง แต่ถึงแม้จะเจอเหตุการณ์แบบนี้ หากย้อนเวลากลับไปได้ อิ๊งค์ก็ยังจะให้คุณพ่อกลับไปเข้าสู่วงการการเมืองนะคะ อะไรที่ทำแล้วคุณพ่อรู้สึกมีความสุข ลูกๆ ทุกคนพร้อมสนับสนุนอยู่แล้ว และเวลาที่ทุกข์ ก็อยู่ข้างกันเหมือนที่เป็นอยู่
อิ๊งค์เชื่อว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วดีเสมอ ยังจำได้ 10 กว่าปีที่แล้วตอนที่คุณพ่อยังเป็นนายก เวลาคุณพ่อได้ยินว่ามีครอบครัวที่หายป่วยหรือรอดชีวิตจากโครงการ 30 บาท คุณพ่อจะกลับมาเล่าให้พวกเราฟังด้วยเสียงที่มีความสุข อย่างกับรู้จักคน ๆ นั้นมานานนับปี พวกเรารักที่พ่อชอบช่วยเหลือคนที่ยากลำบาก โดยพ่อเล่าให้ลูก ๆ ฟังเสมอว่า เพราะพ่อเคยลำบากมาก่อนพ่อเลยเข้าใจ สมัยก่อนที่เคยเปิดร้านขายผ้าไหมกับคุณแม่ ขายไม่ออกเลยสักผืน แต่ก็ฮึดสู้ ฝ่าฟันอะไรต่าง ๆ มามากมาย
คุณพ่อสอนอะไรให้พวกเราเยอะมาก แต่คำสอนที่อิ๊งค์จำขึ้นใจเลยคือ 1) เมื่อเห็นคนที่เค้าประสบความสำเร็จ คนที่เก่งกว่าเรา อย่าอิจฉาเค้า ให้เอามาเป็นแรงบันดาลใจให้ชีวิตเราดีขึ้น ให้วันหนึ่งเราจะได้เก่งเหมือนเค้า 2) ต้องรู้จักเป็นคนกตัญญู คนที่มีบุญคุณกับเราให้จำเค้าให้แม่น ถ้ามีโอกาสให้ตอบแทน ชีวิตจะไม่มีวันตัน 3) อย่าดูถูกคนอื่น อย่าคิดว่าตัวเองเก่งที่สุด เหนือฟ้ายังมีฟ้า ให้เรียนรู้จากคนที่เก่งกว่า หรือเก่งคนละเรื่องกับเราเสมอ อิ๊งค์ยึดหลักสามข้อนี้ดำเนินชีวิตมาโดยตลอด
เพราะคุณพ่อเราคิดแบบนี้ละมั้ง คุณพ่อถึงไม่เคยคิดอะไรล้าหลัง ไม่เคยหยุดหาความรู้ ชอบคุยกับคนเก่ง ๆ และไม่เคยลืมประชาชนที่รักคุณพ่อ…แม้ในวันที่คุณพ่อไม่มียศหรือตำแหน่งอะไรเลย ง่ายๆ แค่นี้ ถ้าจะให้เขียนทุกอย่างที่ทำให้รัก 555 ถามผิดคนแล้ว…โลกทั้งใบก็เขียนไม่พอ
และอีกอย่างที่พวกเราสามพี่น้องจะรู้กันคือ “คุณพ่อเป็นนักเล่าประจำบ้าน” หลายครั้งที่คุณพ่อมีเรื่องดีๆ ความคิดเด่น ๆ เหตุการณ์ที่น่าสนใจ หรือไปพบเจอใครหรืออะไรมา คุณพ่อมักอยากจะแชร์ให้ลูก ๆ ฟังอยู่เสมอ บางครั้งพ่อจะโทรเล่าให้ฟังทันทีเลย พ่อจะโทรบอกทุกคน เล่าซ้ำ ๆ โทรติดใครก่อนก็เล่าก่อน แต่บางทีก็ฝากให้เล่าต่อให้พี่ฟังด้วยนะ เรื่องที่พ่อเล่าก็เช่น เหตุการณ์บริษัท เหตุการณ์บ้านเมือง เหตุการณ์โลก พ่อรู้หมด พ่ออ่านหนังสือตลอด ทำให้พวกเรารับรู้ตลอดว่าตอนนี้พ่อแฮปปี้กับเรื่องนี้นะ หรือในสมัยที่พ่อเป็นนายกรัฐมนตรี พ่อก็ยังเล่าเรื่องนโยบายใหม่ ๆ หรือไอเดียสด ๆ ที่คิดได้ให้ลูกฟังทันที อิ๊งค์ยังจำเรื่องที่พ่อเล่าได้เสมอ พ่อคิดนโยบายอะไรได้จะโทรบอกลูกก่อนเลย อย่างเช่นพ่อโทรมาบอกว่าพ่อจะตั้งกองทุนหมู่บ้าน กองทุนละ 1 ล้านบาท เพื่อให้คนพัฒนาอาชีพ แล้วลูกรู้ไหมต่อไปทุกคนจะมีอาชีพ ไม่มีคนว่างงาน ถึงเขาจะจน เขาก็จะมีอาชีพทำต่อ พ่อเล่าอย่างตื่นเต้นมาก แล้วพ่อก็เล่าว่าลูกรู้ไหมคนที่เขาต้องไปวิ่งยืมเงินคนอื่นมารักษาโรคอีกหน่อยเขาจ่ายแค่ 30 บาทเขาก็จะหายป่วยได้ ลูกรู้ไหม เขาจะได้ผ่าตัดโดยเสียเงินแค่ 30 บาท อิ๊งค์ก็ถามจริงเหรอพ่อ มันจะเกิดขึ้นเหรอ พ่อบอกพ่อทำได้ลูกคอยดูนะ คุณพ่อเป็นคนที่เล่าเรื่องยากให้เป็นเรื่องที่เข้าใจง่ายที่สุด มีตัวอย่างให้เห็นภาพตลอด พ่อเคยบอกว่า ลูก ๆ ทั้ง 3 คนของพ่อมี 3 คน 3 ด้าน ผลัดกันนำช่วยกันเหมือนหงส์เดิน จะมีตัวนึงเดินนำต้านลมเสมอ ให้ตัวหลังได้เดินสบาย และพอเหนื่อยก็จะสลับกันขึ้นมาเดินนำ ทุกสิ่งที่คุณพ่อทำหรือคำสอน ได้หล่อหลอมให้พวกเราเป็นพี่น้องที่รักและดูแลกันเสมอไม่ว่าเรื่องใด ๆ ก็ตาม อีกสิ่งหนึ่งที่เราได้รับจากคุณพ่อมาเต็ม ๆ คือคุณพ่อเป็นแรงบันดาลใจให้พวกเราอยากเรียนรู้ตลอดเวลา คุณพ่อพูดเสมอว่าการเรียนรู้นั้นเป็นการเรียนรู้ตลอดชีวิต ไม่มีจบปริญญา เราต้องเติมเสมอเพื่อให้ทันโลก และแม้ว่าคุณพ่อจะทำงานเยอะมากในแต่ละวัน แต่พวกเรากลับไม่เคยรู้สึกว่าห่างจากพ่อเลย ไม่ว่าจะด้วยข้อจำกัดของเวลาหรือระยะทาง บางอย่างเราอาจจะต้องการคำปรึกษา แค่ไลน์ไปว่า อยากปรึกษาหน่อยนะคะ คุณพ่อจะโทรกลับมาทันที เราก็ปรึกษาการบริหารงานได้ตลอด แม้ว่าห่างไกลแต่ยังอุ่นใจเพราะว่าคุณพ่อมีเวลาให้พวกเราเสมอ”
อิ๊งค์ แพทองธาร ชินวัตร