ภาพถ่าย ดร. ทักษิณ ชินวัตร ช่วงทัวร์นกขมิ้น 2549
พรรคไทยรักไทย มีความหมายคือการรวมพลังความรักและความเสียสละของคนไทย คืนให้กับแผ่นดินไทย เพื่อแก้ไขวิกฤตการณ์และฟื้นฟูประเทศไทย
พรรคไทยรักไทยเกิดขึ้นภายใต้แนวคิดทางการเมืองที่ชัดเจน โดย ดร.ทักษิณ ผู้ก่อตั้งนั้นมีความคาดหวังที่ต้องการทำงานการเมืองเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นให้กับประเทศ เขาต้องการที่จะทำงานการเมืองอย่างสร้างสรรค์ คิดถึงผลประโยชน์ของบ้านเมือง และหากมีโอกาสเข้าไปทำงาน เขาจะใช้หลักการบริหารบ้านเมืองอย่างมีกลยุทธ์ ทั้งศาสตร์และศิลป์ เพื่อสร้างพรรคไทยรักไทยให้เป็นศูนย์รวมความคิด รับเอาปัญหาของพี่น้องประชาชนนำมาหาทางแก้ไขปัญหาอย่างเป็นธรรม ถูกต้องและรวดเร็ว
ทั้งหมดเป็นเสมือนคำมั่นสัญญาที่เขาได้ให้ไว้กับประชาชนในการแถลงข่าวเปิดตัวพรรคไทยรักไทยอย่างเป็นทางการครั้งแรก เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2541 ที่โรงแรมสยามซิตี้ หลังเปิดตัวอย่างเป็นทางการ “พรรคไทยรักไทย” ได้สร้างมิติใหม่ทางการเมืองหลายด้าน โดยเฉพาะเรื่อง “นโยบาย” ที่มีความแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับพรรคการเมืองอื่นๆ ทั้งในด้านของการใช้นโยบายนำตัวบุคคล และการทำนโยบายผ่านความคิดเห็นประชาชน เขาใช้ประสบการณ์ที่สั่งสมมาจากการเป็นผู้ประกอบการและนักธุรกิจ อีกทั้งได้ร่วมงานทางการเมืองในตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แต่สิ่งที่เติมเต็มให้เขามีความรู้ใหม่ ๆ ที่ทันสมัย เพื่อติดตามการเปลี่ยนแปลงของโลกอย่างสม่ำเสมอ คือการอ่านหนังสือและการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ในการศึกษาการเปลี่ยนแปลง และการพัฒนาของต่างประเทศ หวังว่าในอนาคตข้างหน้า เขาจะสามารถนำเอาความรู้ใหม่ๆ เหล่านั้น นำมาสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับประเทศไทย เขาชอบพูดคุยกับผู้ที่มีความรู้ความสามารถในด้านต่าง ๆ เพราะเชื่อว่าการ Brainstrom การได้แลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกัน กับผู้มีความรู้ความสามารถ ทำให้เกิดเป็นความรู้ใหม่ๆ ได้ ซึ่งความรู้ใหม่ ๆ นั้น สามารถนำมาใช้ในการพัฒนาบ้านเมือง พัฒนาประเทศได้
“การยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง” คือ แนวคิดหลักในการสร้างนโยบายของพรรคไทยรักไทย เป็นเหมือนทางเลือกใหม่ ที่จะเป็นบทนำแห่งการกอบกู้วิกฤตของประเทศ ภายหลังจากบอบช้ำด้วยวิกฤตเศรษฐกิจ ปี 2540
“พรรคไทยรักไทย” กับสโลแกน “คิดใหม่ ทำใหม่” ได้รับความสนใจจากประชาชนอย่างมาก เพราะด้วยสถานการณ์ทางการเมืองในขณะนั้นและสถานการณ์วิกฤตเศรษฐกิจ ปี 2540 ที่ทำให้คนไทยได้รับผลกระทบ เดือดร้อน อ่อนแอลง พรรคไทยรักไทยใช้วิกฤตในครั้งนั้น สร้างโอกาสใหม่ ให้ประชาชนยืนได้ด้วยตนเอง ผ่านวิธีคิดแบบพรรคไทยรักไทย หัวใจของพรรคไทยรักไทย คือการสร้างความเข้มแข็งให้กับประชาชน ให้พวกเขายืนได้ด้วยตัวเอง ด้วยการให้ความคิด ให้แนวทาง ให้คนไทยได้เห็นโอกาส ซึ่งเป็นความหวังในการที่จะสามารถหลุดพ้นจากวิกฤตที่เกิดขึ้นในช่วงนั้น ทำให้เสียงตอบรับจากประชาชนต่อพรรคการเมืองใหม่ ที่เป็นการร่วมกันของกลุ่มคนรุ่นใหม่ ทั้ง นักวิชาการ นักคิดและผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ จากภาครัฐและเอกชน เป็นไปในทางที่ดี
“การก่อตั้งพรรคไทยรักไทย ผมให้ความสำคัญกับความแตกต่างในหลายๆ เรื่อง ทั้งเรื่องของ วัฒนธรรมทางการเมืองที่ต่างออกไป เขียนนโยบายโดยไม่ต้องไปมองนโยบายเดิมของคนอื่น พรรคอื่น เพื่อให้ได้สิ่งที่นำมาพัฒนาบ้านเมืองให้เหมาะสมกับสภาพปัจจุบัน”
นอกจากการสร้างความแตกต่าง สร้างวัฒนธรรมการเมืองใหม่แล้ว พรรคไทยรักไทยยังมีโครงสร้างที่เป็นพรรคมหาชน โดยให้ประชาชนมีส่วนร่วมมากที่สุด มีระบบเจ้าหน้าที่ประจำ มีระบบฐานข้อมูลและใช้เทคโนโลยี เพื่อให้เป็นพรรค เป็นที่พึ่งพาของสังคมได้ พร้อมกับเปิดโอกาสให้ทุกคนได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นได้เต็มที่ ช่วยคิด ช่วยทำ
“การตั้งพรรคการเมืองต้องทำเพื่อมาแก้ปัญหาสังคมมากกว่าคิดถึงตัวเอง ต้องคิดให้ดี ผมไม่มองการเมืองเป็นเรื่องของการแข่งขัน ผมมองเป็นเรื่องของการอาสาเข้าไปแก้ปัญหาให้บ้านเมือง ฉะนั้น ประชาชนจึงต้องมองว่าเราทำได้หรือเปล่า ถ้าเราทำได้จริง เขาก็สนับสนุนเรา”
ในเรื่องของนโยบายพรรคนั้น ดร.ทักษิณ ได้อธิบายเอาไว้หลังได้รับชัยชนะอย่างท่วมท้น ในการเลือกตั้งปี ปี 2544 ว่า นโยบายที่พรรคไทยรักไทยทำ เป็นนโยบายที่ประชาชนมีส่วนร่วมหรือ Outside in ในขณะที่ในอดีตเป็น Inside out เพราะเหตุผลนี้ จึงทำให้พรรคไทยรักไทยได้รับความนิยมจากประชาชน ยืนยันได้จากการที่พรรคไทยรักไทยได้เป็นผู้นำเสียงข้างมากในรัฐบาลถึงสองสมัย