ช่วงก่อนปี 2540 ดร.ทักษิณ เป็นนักธุรกิจรุ่นใหม่ที่นักข่าวสายเศรษฐกิจในตอนนั้นสนใจในตัวเขามาก เพราะเขาเป็นหนุ่มชาวเหนือ จบนอก รับราชการตำรวจ มาจับธุรกิจ จนทำให้บริษัท ชินวัตร คอมพิวเตอร์ ประสบความสำเร็จ ก่อนที่จะมีการก่อตั้งพรรค ได้มีการก่อตั้งกองโฆษกของพรรคขึ้นมาก่อน เพื่อระดมคนที่มีความรู้ความสามารถด้านการสื่อสาร ทำหน้าที่ในการเตรียมข้อมูลและภาพนำไปให้สื่อมวลชนทั้งจากส่วนกลาง และภูมิภาค ในการเขียนข่าวและออกข่าว ซึ่งในช่วงนั้น สื่อที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดคือสื่อสิ่งพิมพ์ รองลงมาเป็นสื่อวิทยุและทีวี
เมื่อจดทะเบียนพรรคไทยรักไทยในวันที่ 14 กรกฎาคม 2541 ก่อตั้งพรรคไทยรักไทยอย่างเป็นทางการ ต้องมีการจัดกิจกรรมพรรค,ประชาสัมพันธ์, เผยแพร่สร้างความเข้าใจในตัวนโยบายพรรค และทำให้ ดร.ทักษิณ เป็นที่รับรู้ต่อประชาชนผ่านสื่อมวลชน คำบอกเล่าของหนึ่งในอดีตทีมงานกองโฆษก “ประทีป คงสิบ” เล่าว่า ท่าทีของสื่อจากส่วนกลางและส่วนภูมิภาคที่มีต่อ ดร.ทักษิณ เป็นไปในทิศทางที่ดีมาก ทั้งที่พรรคไทยรักไทยเป็นพรรคการเมืองหน้าใหม่ เพราะตัวนโยบายที่ดี ถูกคิดมาอย่างรอบคอบ แก้ปัญหาของคนในยุคนั้น และการทำความเข้าใจกับสื่อมวลชนที่เป็นคนนำส่งสารไปถึงประชาชนยังทำได้ดีในเวลาเดียวกัน เมื่อ นโยบายถูกคิดมาจากทีมยุทธศาสตร์ของพรรคมาแล้ว บทบาทต่อไปที่ต้องทำให้นโยบายนั้นมาจากประชาชน ด้วยการฟังเสียงประชาชน คือการลงพื้นที่
“ช่วงทำนโยบาย ทีมยุทธศาสตร์ กองโฆษกพรรคจะลงพื้นที่ไปด้วย อย่างนโยบายพักชำระหนี้เกษตรกร จะมีการเปิดวงเสวนาเล็ก ๆ กับชาวบ้านบนศาลาวัด คุยกันเสร็จก็ลงไปคุยกันต่อที่กระท่อมปลายนา เดินตามคันนา ไปคุยกับชาวบ้าน ได้ข้อมูล ได้ปัญหาที่เกิดขึ้นจริง”
การลงพื้นที่ของพรรคไทยรักไทย เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ปี 2541 ซึ่งเป็นการลงพื้นที่รับฟังเสียงประชาชนก่อนการเลือกตั้งถึง 3 ปี ซึ่ง 3 ปีนี้ทำให้ไทยรักไทย มีฐานข้อมูลปัญหาของชาวบ้านทั่วประเทศ และมีการจัดเป็นฐานข้อมูลที่เป็นระบบ
“ผมชอบเดินตลาดสดตอนเช้าตรู่ ทุกครั้งที่ลงพื้นที่พบปะประชาชนแต่ละจังหวัด ผมจะไปบอกทีมงานให้จัดตารางไปตลาด ไปทักทายประชาชน ไปพูดคุยว่าเขามีปัญหาอะไร ขายดีไหม อยากให้มีนโยบายอะไรที่จะช่วยให้ชีวิตความเป็นอยู่ของพวกเขาดีขึ้น”
2-3 ปี แรก ทีมงานของพรรคไทยรักไทย จะเก็บข้อมูลจากทุกพื้นที่ นำมาตกผลึกกับแกนนโยบายของพรรคที่ทีมยุทธศาสตร์พรรคฯได้จัดทำไว้ เป็นที่มาของนโยบายที่โดนใจประชาชนในช่วงนั้น อย่าง นโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค มาจากเรื่องเล็ก ๆ และความช่างสังเกตของ ดร.ทักษิณ ที่ได้จากการลงพื้นที่ จ.พะเยา ซึ่งเป็นโรงพยาบาลประจำอำเภอเล็ก ๆ เมื่อก่อนการรักษาพยาบาล ประชาชนจะใช้บัตรอนาถา แต่การลงพื้นที่วันนั้น เขาได้พบกับคิวคนไข้ที่รอพบหมอแต่เช้า เอารองเท้าเรียงกันเป็นแถวยาว ซึ่งปัญหาที่ตอกย้ำว่า การรักษาพยาบาลเป็นภาระค่าใช้จ่ายยามยากจน
“บางคนต้องขายวัวขายควายมาหาหมอ ตอนนั้นเป็นอย่างนั้น ยังต้องมาเข้าคิวยาว ผมอยากจะแก้ปัญหาตรงนี้”
การลงพื้นที่เพื่อรับฟังปัญหาพร้อมกับการสังเกตุเรื่องเล็กๆน้อยๆ ของเขา นำมาซึ่งนโยบายที่ช่วยแก้ปัญหาประชาชน สร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ ทำให้พรรคไทยรักไทยชนะการเลือกตั้งในปี 2544 ด้วยคะแนนเสียงการตอบรับอย่างท่วมท้นของคนไทยทั้งประเทศ