จากเด็กเตะบอลสันกำแพง สู่เจ้าของ Manchester City - Thaksin Official


     ดร.ทักษิณ ชินวัตร ชื่นชอบการเล่นกีฬาตั้งเรียนชั้นประถม ทุกเย็นหลังเลิกเรียนเด็กชายทักษิณและเพื่อนๆ เล่นบาสกันอย่างสนุกสนาน เล่นกันตั้งแต่ ป.1  โรงเรียนสันกำแพง จนเรียนต่อที่โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย เอาจริงเอาจังกับมันจนได้รางวัล

     ด.ช.ทักษิณ รวมตัวกับเพื่อน ตั้งทีมบาสเก็ตบอลชื่อ ทีมดาวเหนือ หรือ North Star เป็นตัวแทนหมู่บ้านไปแข่งกับหมู่บ้านอื่นๆ โดย ด.ช.ทักษิณเล่นในตำแหน่งปีก

     งานวัดสันกำแพงหลวงทุกปี จะจัดแข่งขันกีฬาต่างๆ แต่กีฬาที่เป็นที่นิยมในตอนนั้นคือการแข่งขันบาสเก็ตบอล จัดช่วงเดือนมีนาคมและช่วงฤดูหนาว คนสันกำแพงจะมาดูและมาเชียร์บาสกันแน่นอัฒจรรย์ทุกนัด 

     เมื่อย้ายเข้ามาเรียนที่โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย ทำให้เขาได้สัมผัสกับกีฬาชนิดใหม่ที่น่าสนใจไม่แพ้บาสเก็ตบอลนั่นก็คือฟุตบอล เขาเริ่มเรียนรู้การเล่นฟุตบอล และตกหลุมรักฟุตบอลชนิดถอนตัวไม่ขึ้น ในเวลาเดียวกันเขาต้องเอาจริงเอาจังกับการเรียนในโรงเรียน 2 ภาษาครั้งแรก  ตามความต้องการของพ่อ-แม่ 

     จนเรียนจบในไทย  ไปศึกษาต่อในต่างประเทศ ตั้งหน้าตั้งตาเรียนจนจบกลับมาเมืองไทย และเข้าสู่แวดวงธุรกิจ มาสู่การเมือง แต่ในอีกมุมหนึ่ง ความรักในกีฬาของเขายังอยู่ในใจมาโดยตลอด

     พฤษภาคม 2550 ดร.ทักษิณ ตัดสินใจซื้อทีมแมนเชสเตอร์ซิตี้ ด้วยเงินประมาณ 7,000 ล้านบาท โดยซื้อหุ้นจากผู้บริหารเดิม 55.9% และรวบรวมซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นรายย่อยอีกจำนวนหนึ่ง จนสามารถถือหุ้นเกิน 75% ทำให้เป็นเจ้าของแมนฯซิตี้ กลายเป็นนักธุรกิจไทยคนแรกและคนเอเชียคนแรกที่เป็นเจ้าของสโมสรฟุตบอลในพรีเมียร์ลีก

     “ที่ซื้อทีมฟุตบอลก็เพราะผมชอบฟุตบอล” 

     ทันทีที่เขาเข้ามาบริหารทีมแมนเชสเตอร์ซิตี้ จากทีมอันดับ 14 ของตารางพรีเมียร์ชิพซีซั่น 2006-07 ทำสกอร์ได้แค่ 29 ประตู แต่ถัดจากนั้นเพียง 3 เดือน เมื่อเริ่มต้นฤดูใหม่ 2007-08 เรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ซิตี้ ก็กลายเป็นทีมอันดับ 1 หลังจากชนะรวด 3 นัดแรก

     “ผมมีเวลามากและคิดว่าตัวเองต้องการทำอะไรบางอย่างก่อนจะกลายเป็นคนว่างงาน ผมคิดว่าการเป็นประธานสโมสรฟุตบอลคงเป็นการเริ่มต้นที่ดี ผมได้ยินมาว่า แมนฯซิตี้ อาจเป็นทางเลือกสำหรับผม และผมก็สนใจทันที ผมตั้งเป้าหมายที่จะปลุกสโมสรยักษ์หลับแห่งนี้ขึ้นมา”

     การเป็นคนเอเชียคนแรกที่ได้เจ้าของสโมสรทีมลีกฟุตบอลระดับโลก  เป็นฝันอันยิ่งใหญ่ที่ถูกบ่มเพาะมานานจากความรักในกีฬาตั้งแต่วัยเด็ก  กลายมาเป็นความภูมิใจของเขาและเป็นความภูมิใจของคนไทยทั้งประเทศ