ในการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 23 ของประเทศไทย ดร.ทักษิณ ทำงานเชิงรุกตั้งแต่วันแรกที่รับตำแหน่งสำคัญนี้
ทุกครั้งที่เขาได้หารือข้อราชการกับทีมงาน ซึ่งประกอบไปด้วยคณะรัฐมนตรี ข้าราชการการเมือง ข้าราชการทั่วประเทศ ดร.ทักษิณ มักจะขอให้ทุกคนที่ทำงานร่วมกัน “คิดนอกกรอบ” และควรเปิดมุมมองการทำงานของทุกคนให้กว้างขึ้น หลายมิติมากขึ้น ทุกคนสามารถแสดงความคิดเห็นได้ ไม่มีเรื่องใดที่ผิดหรือถูก ตราบใดที่ข้อคิดเห็นนั้นมีประโยชน์
แม้จะเป็นนายกรัฐมนตรี หน้าที่หลักคือการบริหารประเทศ มีที่นั่งทำงานหลักอยู่ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล แต่สถานที่ทำงานส่วนใหญ่ของเขากลับไม่ใช่ที่นั่น
เวลาส่วนมากของเขาถูกทุ่มเทไปกับการลงพื้นที่ทำงานร่วมกับข้าราชการทุกภาคส่วนทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค เขาไปร่วมประชุม หารือ บรรยายพิเศษให้กับ “ทีม”
ทีมของ ดร.ทักษิณ คือ ข้าราชการทุกภาคส่วน เรื่อยไปจนถึงการบรรยายในสถานศึกษา ไม่ใช่การบรรยายให้เหล่าครูอาจารย์ฟังเท่านั้น แต่คือการเข้าไปถึงห้องเรียนเพื่อบรรยายพิเศษให้กับนักเรียนในหลายระดับชั้น
เดือนพฤศจิกายน ปี 2545 ดร.ทักษิณ บรรยายพิเศษให้กับนักเรียนโรงเรียนผู้นำและสมาชิกสภาอุตสาหกรรม ที่สถาบันฝึกอบรมผู้นำ มูลนิธิพลตรีจำลอง ศรีเมือง ต.พุประดู่ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี แม้คนในห้องจะเป็นเยาวชนและผู้นำชุมชนเป็นส่วนใหญ่ แต่สิ่งที่เขาบรรยายนั้น เสมือนการเตรียมความคิดของทุกคนให้พร้อม เพื่อให้เกิดภาวะผู้นำที่ต้องอยู่ภายใต้สิ่งแวดล้อมที่แตกต่างออกไป เช่น การนอนในมุ้ง บ้านมุงจาก หรือกระต๊อบ ท่ามกลางป่าเขา ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกใด ๆ นอกจากห้องน้ำ และที่นอนฟูกธรรมดา ความหมายที่แฝงในนั้นคือ ผู้นำจะต้องอดทนต่อทุกสภาพแวดล้อมได้
เขาได้เล่าถึงคุณสมบัติของการเป็นผู้นำที่ไม่ใช่ผู้นำที่มีพลังทำงานเพียงอย่างเดียว แต่ต้องใช้หลักธรรมผนวกผสมเข้ากับความคิดเพื่อความก้าวหน้า เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของโลกที่หมุนไปทุกวันด้วย
“การเป็นผู้นำต้องไม่ยึดติด อย่าเกิดกิเลส โลภะ โทสะ โมหะ มีสติ ปัญญา เมื่อทำผิดก็ไม่พลาดมาก ที่สำคัญต้องปล่อยวาง มีความสร้างสรรค์ และคิดนอกกรอบ”
เขาเห็นด้วยกับทฤษฎีของ ดร.เดอร์โบโน่ ที่ระบุไว้ว่า หากไม่มีใครกล้าคิดนอกกรอบ จะทำให้เราจมอยู่กับเรื่องเดิม ๆ ดังนั้นในการบริหารงาน ดร.ทักษิณ จะนำทีม Operation Research เข้ามาช่วยดูเนื้อหาและต้นตอของสิ่งที่อยากจะแก้ไขหรือขับเคลื่อน เนื่องจากทีมนี้ประกอบไปด้วยคนหลากหลายทางวิชาการ ที่สามารถแชร์ความคิดเห็นหลาย ๆ ด้าน เป็นการมองต่างมุมของผู้เชี่ยวชาญหลายคน เมื่อหันหน้าเข้าหากันแล้ว จะได้ตรงกลางที่เป็นการมองทั้งระบบได้อย่างลงตัวและรอบด้าน
“ความสามารถของผู้นำ คือความสามารถในการปลดปล่อยพลังสมองของคนในองค์กร ยิ่งปลดปล่อยพลังสมองได้มากเท่าไหร่ ยิ่งเป็นผู้นำที่สำเร็จ เพราะสมองของผู้นำคนเดียว ไม่เพียงพอกับการแก้ปัญหา ต้องใช้สมองของคนทั้งองค์กร”
อีกเหตุการณ์ที่เห็นได้ชัดถึงการปลูกฝังแนวคิดของความเป็นผู้นำในแบบของ ดร.ทักษิณ ที่เน้นการมีส่วนร่วมของทีมเป็นหลัก และการมีความคิดสร้างสรรค์ใหม่ ๆ ได้ถูกนำมาใช้ในช่วงที่เขาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และก่อตั้งแนวคิด “ผู้ว่า CEO” ขึ้น
ผู้ว่าราชการจังหวัด คือชื่อจริง ส่วนผู้ว่า CEO คือชื่อเล่นที่ ดร.ทักษิณ ตั้งขึ้น เพื่อให้ผู้ว่าราชการจังหวัดได้ทำหน้าที่ในบริบทที่ต่างไปจากเดิม สิ่งที่สำคัญของแนวคิดนี้ คือการบริหารงานที่ไม่กระจุกอยู่ที่คน ๆ เดียวเสมอไป ต้องปรับกระบวนการทำงานใหม่อีกครั้ง โดยผู้ว่า CEO จะต้องไม่รอรับคำสั่งจากส่วนกลางแล้วจึงค่อยทำงาน และให้เปลี่ยนรูปแบบการทำงานมาเป็น ‘ประธานคณะผู้บริหารของจังหวัด’ มีหน้าที่บริหาร วางแผน คอยติดตามงาน และคอยให้กำลังใจทีมงานอย่างแข็งขัน
“การบริหารงานแบบผู้ว่าฯ CEO ต้องการเห็นเจ้าภาพที่มองทุกตารางนิ้วในการกำกับดูแลของตัวเอง เป็นภารกิจหน้าที่ที่ต้องดูแลจัดการแก้ไข ป่าไม้ถูกทำลาย บอกว่าไม่รู้เรื่องเพราะอยู่ไกล คำตอบอย่างนั้นไม่ใช่คำตอบของโลกยุคใหม่”
ความสำคัญของผู้นำในทุกระดับ จะต้องเป็นคนที่มีความรอบรู้ในทุกด้าน เนื่องจากโลกในยุคปัจจุบันเป็นโลกของการหลั่งไหลของข่าวสาร ทุกคนมีความรู้เทียบเท่ากันหมด ดังนั้นหากผู้นำในโลกยุคนี้กล่าวขึ้นว่า “ไม่รู้” อาจจะทำให้องค์กรมีความสั่นไหว
“การเป็นผู้นำต้องเข้าใจและตามทันคำว่า Globalization คือยุคที่มี Free flow มีการไหลอย่างเสรีของข้อมูลข่าวสาร เพราะฉะนั้นอะไรเกิดขึ้นที่ประเทศไทยเดี๋ยวนี้ รู้ไปทั่วโลก เรื่องใหญ่ ๆ รู้ไปทั่วโลก อะไรเกิดขึ้นทั่วโลกมุมไหนของโลก เราก็รู้ในไม่กี่นาที ไม่กี่ชั่วโมง ถ้าผู้นำไม่เข้าใจสิ่งเหล่านี้ เสร็จ”
ดร.ทักษิณ อธิบายความหมายของ Globalization ออกเป็น 4 ด้าน ได้แก่
Free flow Information
Free flow of Goods
Free flow of People
Free flow of Capital
เกือบ 20 ปีแล้วที่ ดร.ทักษิณ พูดถึง Globalization ที่จะเกิดขึ้นในโลก มาถึงวันนี้ สิ่งที่เขาพูดกลายเป็นสิ่งที่มีอิทธิพลต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมโลกอย่างขาดไม่ได้
“ความเป็นผู้นำนอกจากมีคุณสมบัติใฝ่หาความรู้ เท่ากันการเปลี่ยนแปลงและมีวิสัยทัศน์แล้ว ยังต้องเชี่ยวชาญในการบริหารให้คนที่เราเลือกเข้ามาหรือผู้ตาม ปฏิบัติไปสู่จุดที่ผู้นำคาดหวังด้วย”
ทั้งหมดคือนิยามของคำว่า “ผู้นำ” ในแบบของ ดร.ทักษิณ ชินวัตร